
ตำรวจญี่ปุ่น รายหนึ่งในจังหวะอิเมะ ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ได้ก่อเหตุใช้ไขควงงัดตู้บริจาคของศาลเจ้าแห่งหนึ่ง เพื่อขโมยเงินไปซื้อกาแฟและบุหรี่ ซึ่งหลังถูกจับได้ เขาก็ยอมรับสารภาพในทุกข้อหา แถมยังบอกอีกว่า สาเหตุที่ตัดสินใจลักทรัพย์ตู้บริจาคครั้งนี้ก็เพราะ “เมีย” ของเขาไม่ให้เงินใช้มากกว่า 10 ปี ซึ่งคำรับสารภาพของเขาทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเห็นอดเห็นใจและเข้าใจหัวอกสามีของตำรวจหนุ่มรายนี้
ตำรวจญี่ปุ่น งัดตู้บริจาควัด เอาเงิน 200 เยน ไปซื้อกาแฟและบุหรี่

ตำรวจญี่ปุ่น รายนี้มียศเป็นจ่าสิบ อายุ 42 ปี จากสถานีตำรวจนาบาริ จังหวะอิเมะ ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น โดยเมื่อช่วงเดือนมีนายน 2021 เขาได้ก่อเหตุใช้ไขควงงัดตู้บริจาคของศาลเจ้าในเมืองโคโมโนะ ก่อนจะขโมยเงินไปเป็นจำนวน 200 เยน หรือประมาณ 59 บาท แต่ก็ถูกจับได้ ทำให้ถูกสำนักงานอัยการเขต เมืองยกกาออิจิ ยื่นฟ้องในข้อหาลักทรัพย์ โดยตำรวจหนุ่มยอมรับสารภาพแต่โดยดีว่า เขาเพียงแค่ต้องการเงินไปซื้อกาแฟกับบุหรี่เท่านั้น ส่วนสาเหตุที่เขาถึงกับยอมเสี่ยงงัดตู้บริจาคของวัดเพื่อเอาเงินแค่ 200 เยน ก็เพราะภรรยาของเขาไม่ยอมให้เงินเขาใช้มานานกว่า 10 ปีแล้ว!

หลังจากมีการยื่นฟ้องดำเนินคดี ล่าสุดศาลได้ตัดสินพักงาน ตำรวจญี่ปุ่น วัย 42 ปี รายนี้เป็นเวลา 3 เดือน แต่เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาได้ยื่นขอเกษียณอายุล่วงหน้าด้วยความสมัครใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตญี่ปุ่นจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็นอกเห็นใจตำรวจหนุ่มรายนี้ เพราะในสังคมญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องปกติที่ภรรยามักจะเป็นฝ่ายดูแลเรื่องการเงินภายในบ้าน ทำให้พ่อบ้านญี่ปุ่นส่วนใหญ่เวลาจะใช้เงินซื้ออะไรก็ต้องขออนุญาตภรรยาก่อนเสมอ ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างรู้สึกสงสารและเห็นใจตำรวจหนุ่มสุด ๆ บางคนถึงกับแนะนำให้ให้คุณตำรวจรีบ “หย่า” กับภรรยาได้แล้ว บางคนก็ตั้งคำถามว่าภรรยาของเขาเอาเงินไปทำอะไรหมด? และห้ามพลาด 123bet เว็บพนันออนไลน์ อันดับ 1 ในเอเชีย มั่นคง เชื่อถือได้ จ่ายจริง มีรางวัลมากมาย ให้บริการ 24 ชั่วโมง
เว็บไซต์ ข่าวด่วน ข่าวดัง ข่าวร้อนมาแรง ที่กำลังเป็นกระแสในโลกออนไลน์
More Stories
ใครชอบกินหมูกระทะต้องระวัง เครื่องใน-เนื้อสัตว์แช่ฟอร์มาลิน เตรียมส่งร้านอาหารบุฟเฟต์ในชลบุรี
กนอ.พร้อม 4 พันธมิตรร่วมกันเผาทำลายสารทำความเย็นให้หมดไป ในระบบฟลูอิดไดซ์เบด
ไทยยังคงเครดิต Fitch Rating ได้ดี BBB+ หลังจากติดตามสถานการณ์ประเทศไทยใกล้ชิด