ธุรกิจไทยยังสู้ไหวอยู่ในเมียนมา หลังจากหยุดจ่ายหนี้เงินกู้ต่างประเทศแล้ว

ธุรกิจไทยยังสู้ไหวอยู่ในเมียนมาร์ ในประเด็นที่เกิดขึ้นมาในปัจจุบันนี้ จากที่นักวิเคราะห์ได้มีการประเมินประเทศเพื่อนบ้าน เมียนมาที่ได้มีการไม่ให้หยุดที่จะจ่ายหนี้เงินกู้ นับว่าไม่ได้กระทบกับประเทศเท่าไหร่ โดยมีสัดส่วนทางการค้าเพียงแค่ 0.85 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไปเหมือนกับ 6 กลุ่มของธุรกิจที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่ได้ทำอยู่ในเมียนมา โดย SCC มีการขอยุติการทำโรงปูน ซึ่งในต่างประเทศส่วนใหญ่แล้ว จะมีการชำระเงินซื้อขายก๊าซในประเทศไทย นับว่าเป็นประเด็นที่น่าติดตาม 

ติดตามสถานการณ์ ธุรกิจไทยยังสู้ไหวอยู่ในเมียนมาร์

ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อทางธนาคารกลางของเมียนมา ได้มีการเผยถึงข้อมูลในการออกคำสั่งในวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยให้ทางบริษัทและผู้กู้ยืมเงินรายย่อย ได้ยุติการชำระเงินคืนหนี้เงินกู้ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเงินต้นและดอกเบี้ย เนื่องจากว่าเป็นการรักษาปริมาณทุนสำรองเงินต่างประเทศ ที่ในขณะนี้ได้ลดลงไป

เมื่อในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางรัฐได้มีการให้ผู้ที่มีรายได้ในสกุลเงินต่างประเทศ ได้แปลงสกุลเงินนั้น ให้เป็นเปลี่ยนเป็นสกุลเงินท้องถิ่น หรือเงินจ๊าต โดยในการอ้างอิงถึงอัตราธนาคารกลางอยู่ที่ 1,850 จ๊าต โดยคิดเป็นต่อดอลลาร์ ในวัตถุประสงค์นี้ไม่อยากให้สกุลเงินเกิดความผันผวนในท้องถิ่นไปมากกว่านี้ ที่สำคัญเลยไม่ให้นำเข้ารถยนต์ น้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ สินค้าที่ไม่จำเป็นหรือฟุ่มเฟือย แต่ทั้งนี้ไทยยังไม่ได้รับผลกระทบหนักแต่อย่างใด 

ธุรกิจไทยยังสู้ไหวอยู่ในเมียนมาร์ ไม่ส่งผลกระทบต่อไทยหนักมากนัก

ทางบล.เอเชียพลัส ที่ได้มีการเผยว่ายังไม่กระทบต่อประเทศไทยมากนัก เนื่องจากว่าเมียนมามีสัดส่วนในการค้ากับประเทศไทยน้อย มีเพียงแค่ 0.85 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนปริมาณการค้ามีมูลค่าอยู่ที่ 4.8 พันล้านเหรียญ ในธุรกิจต่างๆ ที่ได้มีส่วนลงทุนกับทางเมียนมา มีการประเมินถึง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง กลุ่ม OSP เป็นต้น
ธุรกิจไทยยังสู้ไหวอยู่ในเมียนมาร์ จากการประเมินที่กล่าวมา นับว่าไทยยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ยังแก้ปัญหาได้ ถือว่ายังไม่ได้มีสัญญาณแย่ และห้ามพลาด itp slot  สล็อตไอทีพี อันดับ 1 ของประเทศ เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย ให้รางวัลมากมาย

เว็บไซต์ ข่าวด่วน ข่าวดัง ข่าวร้อนมาแรง ที่กำลังเป็นกระแสในโลกออนไลน์

PaNu

See author's posts